สวัสดีค่ะ เราชื่อฟลุ๊คนะคะ ได้มีโอกาสเข้าร่วมโครงการกับ NICE Japan เป็นเวลา 2 สัปดาห์ ตั้งแต่วันที่ 30 กันยายน – 13 ตุลาคม 2561 โครงการนี้จัดที่เมือง Minamata จังหวัด Kumamoto ค่ะ วัตถุประสงค์หลักๆของโครงการคือ การมีส่วนร่วมในการ Stop Climate change และการสร้างมิตรภาพที่ดีกับอาสาสมัครและคนในท้องถิ่นค่ะ

 สำหรับเราแล้ว ประเทศญี่ปุ่นเป็นประเทศที่เราไม่เคยไปมาก่อนเลยค่ะ และพูดภาษาญี่ปุ่นไม่ได้ด้วยค่ะ เราก็ใช้ภาษาอังกฤษในการสื่อสารเป็นหลักค่ะ การเดินทางก็เดินทางโดยรถไฟ รถบัสสะดวกดีค่ะ หลายคนอาจจะเคยได้ยินเกี่ยวกับโรคมินามาตะ เป็นโรคที่เกิดจากสารพิษจากปรอทค่ะ แต่ตอนนี้เมืองมินามาตะ ไม่มีคนเป็นโรคนี้แล้ว และเป็นเมืองที่ได้รับรางวัล Eco City ใครที่อยากมาเมืองนี้ก็สบายใจได้ค่ะ เป็นเมืองเล็กๆที่ติดทะเล และรายล้อมด้วยภูเขา ธรรมชาติมากค่ะ คนท้องถิ่นที่นี่น่ารักมากๆค่ะ

วันแรกที่เราไปถึงจะมีผู้นำค่ายมารับที่สถานีรถไฟค่ะ แล้วก็ขับรถต่อไปถึงที่พัก ที่พักก็สะดวกสบายดีค่ะ มีจักรยานให้ขี่ด้วยค่ะ พอถึงที่พักก็จะแนะนำให้เรารู้จักคนในค่ายค่ะ ในค่ายที่เราไปมีประเทศญี่ปุ่น 2 คน เบลเยี่ยม 2 คน และประเทศไทย 1 คนค่ะ

กิจกรรมหลักๆในค่าย คือการทำถ่านไม้ไผ่ค่ะ โดยการเอาไม้ไผ่ที่ตัดแล้วเรียงลงในเตาเผา แล้วเผาไม้ไผ่จนไหม้หมด ใช้ระยะเวลา 3-4 วัน แล้วถึงเก็บนำมาใช้งานได้ค่ะ บางวันก็ไปตัดไม้ไผ่ในป่าค่ะ การที่ให้เราไปทำถ่านไม้ไผ่ เพื่อนำถ่านมาใช้ในการก่อกองไฟในหน้าหนาว แทนการใช้เชื้อเพลิงน้ำมันค่ะ และมีกิจกรรมอื่นๆให้ทำหลายอย่างมากค่ะ บางวันก็ให้ทำกระดาษสาเป็นลายคุมะมง, ย้อมผ้าโดยใช้สีจากวัสดุธรรมชาติมาย้อมผ้า ,ได้ลองแกะสลักหินด้วยค่ะ เราได้มีโอกาสไปโรงเรียนมัธยมใกล้ๆที่พักด้วยค่ะ พอดีมีผู้เชี่ยวชาญด้านสัตว์ทางทะเลมาที่โรงเรียนมัธยม ให้น้องๆได้ทำกิจกรรม โดยให้น้องๆไปเก็บสัตว์ทะเล เช่น กุ้ง หอย ปู ปลา มาให้ได้มากที่สุด และ นำมาศึกษา species ของสัตว์ทะเลค่ะ และเราได้เข้าชมพิพิธภัณฑ์มินามาตะ ด้วยค่ะ ที่นี้เป็นการเล่าประวัติของการเกิดโรคมินามาตะ และวันสุดท้ายก่อนที่เราจะกลับไทย ก็มีการจัดกิจกรรมที่สวนสาธารณะที่ Kumamoto เราก็ได้ไปงาน Event ค่ะ โดยงานนี้จะมีเด็กๆประถม เข้ามาลองทำกระดาษสา และ ย้อมผ้าค่ะ มีกิจกรรมให้เด็กลองทำเองหลายอย่างเลยค่ะ เราได้ทำกิจกรรมเยอะมากๆค่ะ สนุกดีค่ะ

เราได้ประสบการณ์หลายอย่างเลยค่ะ จากการไปค่ายอาสาสมัครที่ต่างประเทศครั้งนี้ ได้มิตรภาพจากเพื่อนๆ ได้ลองทำกิจกรรมหลายๆอย่าง ได้ทำกิจกรรมกับคนในท้องถิ่น และมีความสุขที่ได้มีส่วนร่วมในค่ายอาสาสมัคร ถึงแม้จะเป็นแค่ช่วงระยะเวลาสั้นๆ สุดท้ายก็อยากจะขอบคุณเพื่อนๆอาสาสมัคร และคนในท้องถิ่น ทุกคนใจดีมากๆค่

“เริ่มแรกเมื่อไปถึงประเทศเยอรมันมีคนมารับที่สนามบิน มีการต้อนรับที่ดีให้ข้อมูลต่างๆในการเดินทางจากสนามบินไปยังจุดรับตัวอีกจุดไปค่าย ในระหว่างการทำค่าย คนในองค์กรให้ข้อมูลต่างๆ และอธิบายได้ดีเกี่ยวกับจุดประสงค์ในการทำงานต่างๆ ที่ได้รับมอบหมาย ส่วนเพื่อนร่วมค่ายทุกคนก็เป็นมิตรกันทุกคน ทำหน้าที่ได้รับมอบหมายได้ดี ในระหว่างทำค่ายจึงเป็นไปด้วยราบรื่น ในช่วงวันหยุดพักได้มีการออกไปเทียวรอบเมืองที่ใกล้กับค่าย คนในองค์กรได้อธิบายแผนในการเดินทาง และดูแลกันอย่างดีเพื่อไม่ให้เกินข้อผิดพลาดระหว่างการเดินทางในวันหยุด ส่วนสุดท้ายในวันส่งตัวทุกคนกลับประเทศ คนในองค์กรได้อธิบายเกี่ยวกับการเดินทางของแต่และคนเพราะเวลากลับของแต่ละคนไม่เหมือนกัน ทางองค์กรดูแลเอาใจใส่มากทำให้รู้สึกไม่โดนทิ้งไว้ เป็นการเข้าค่ายที่ประทับใจอย่างมาก”

“สิ่งที่ประทับใจในค่าย Sakarezh นี้คือความมีจิตใจดีและมีน้ำใจของคนที่นั่น ผู้บริหารผู้นำค่ายคนทำงานเเละเด็กๆที่นั่นน่ารักมากคอยช่วยเหลือซึ่งกันและกัน

สำหรับประสบการณ์ของคุณโซเฟีย

การทำกิจกรรมที่นั่นหลักๆก็คือเป็นการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมซึ่งแต่ละประเทศต้องนำเสนอประเทศของตัวเองอาทิ เช่น ประเทศตุรกีก็จะนำเสนอในเรื่องวัฒนธรรมของประเทศและการละเล่น ของประเทศนั้นๆ และกิจกรรมที่ทำที่นั่นผู้เข้าร่วมโครงการทั้งหมดจะต้องเข้าร่วมกิจกรรมกับเด็กๆที่นั่นอย่างเช่นการเรียนการสอนงานฝีมือการเรียน Dance Class  การเล่นเกมต่างๆ และ เรียนรู้ความเป็นผู้นำและความกล้าแสดงออกบนเวทีชอบในความน่ารักของคนที่นั่นความมีน้ำใจ ทำให้เราได้เรียนรู้วัฒนธรรมของประเทศรัสเซียเปิดโลกกว้างมากขึ้นและประเทศของผู้เข้าร่วมโครงการมากยิ่งขึ้นเเละที่สำคัญทำให้เรามีเครือข่ายในหลายๆประเทศ ซึ่งสิ่งนี้เป็นสิ่งสำคัญที่ผู้เข้าร่วมทุกท่านจะได้รับ”

และในส่วนประสบการณ์ของคุณยานั้น

“ความประทับใจ คือ ความมีจิตใจดีของ ผู้บริหาร พี่เลี้ยง เเละอาสาสมัครนานาชาติทุกคน  เเละความน่ารัก ความไร้เดียงสา ของเด็กๆ ทุกๆวันคือวันสำคัญเเละจะมีกิจกรรมให้น่าตื้นเต้นตลอด เเละทุกๆกิจกรรมสร้างความอบอุ่นเเละความผูกพันระหว่างอาสาสมัครเเละเด็กๆเสมอ ทุกคนในค่ายจะอยู่ด้วยกันเหมือนครอบครัว เเละไม่ว่าอาสาสมัครเเละเด็กทุกคนเต็มที่กับทุกๆกิจกรรมค่ะ”

I was a volunteer for two months with the help of DaLaa in the ”Lang Ai Mee” Community, between January and March 2019.

Lang Ai Mee is a small community in a mountainous area of South Thailand, located in a national park. As a volunteer, my activities took place in two ways: activities in school and activities with villagers.

The school (which is a learning center) is the biggest part of the project and my role was to: teach English to pupils from grades one to six (6 to 12 years old) and to be a part of the school life. You can give art or sports classes too, and you can join another teacher (almost all teachers are police officers too), and of course you will play a lot with the children. While a specific level of English is not required, it’s better if you can speak the language quite well; also the locals know that you may not have teaching skills (even if you can teach whatever and however you want), but you can bring your smile, your motivation, your ideas and your good mood. The children are truly adorable, they really want to learn, to play with you and to discover you.

The activities with the villagers depend on the period that you spend in the village, the needs at the moment and your host. For example, we helped to build a road and a dam, and we helped to cut rubber trees and to collect rubber. We (the volunteers) had our own house as accommodation.

This project is really interesting, engaging. It combines environment, cultural exchange, education, playing with children and organising activities with local people. Lang Ai Mee is a strong community, people take care each other and they fight the government who declared the place as a national park and tried to evacuate them. They will welcome you as a member of the community : with trust and big smiles.

Welcoming volunteers is really important to them and clearly you can’t miss out this opportunity! It was a beautiful experience for me and I have gotten a lot of good souvenirs.