คุณแมท ค่ายที่รัสเซีย Orlenok camp in Kirov 3-8 Aug 2018

จุดเริ่มต้นของการไปค่ายนี้ เพราะเราชอบไปเป็นอาสาสมัคร เคยไปค่ายอาสาสมัครในไทยมาหลายค่าย ทั้งสอนหนังสือ ทั้งใช้แรงงาน และเราชอบเดินทางท่องเที่ยวต่างประเทศคนเดียวมากๆ เลยอยากลองไปเป็นอาสาสมัครในต่างประเทศดู ก็เข้าไป search ใน google นี่ล่ะ มีหลายเว็บ เว็บภาษาอังกฤษนะจ้ะ สรุปเราเลือก camp จากเว็บนี้ https://www.workcamps.info/icamps/ เพราะมีให้เลือกเยอะ และมี period ที่พอจะเคลียร์งานได้ หวยก็มาออกที่รัสเซีย เพราะยังไม่เคยไปมาก่อน มีประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจ และ culture น่าจะต่างจากเรามากๆ ก็เลยสมัครไปค่ายใน Kirov ที่รัสเซีย เป็นค่ายแนว adventure นอนเต้นท์ การสมัครเราส่งใบสมัครเองไม่ได้ ต้องส่งให้ partner ในไทยก็คือ Dalaa มีการสัมภาษณ์กับผู้ประสานงานค่ายผ่าน skype ประมาณชั่วโมงกว่าๆ มีค่าใช้จ่าย 3,000 บาท แล้วเราก็ซื้อตั๋วเครื่องบิน รถไฟเสร็จสรรพ ก่อนเริ่มค่าย 1 เดือน ค่ายที่สมัครไว้ก็ cancel จ้า งานงอก จ่ายเงินไปหมดแล้ว ทางนู้นเค้าก็เลยเสนอค่ายใหม่ใน region เดิม เป็นค่าย summer camp ที่ใหญ่ที่สุดของเด็กที่นี่ มีใน wikipedia ด้วยนะ แต่ volunteer คนอื่นยกเลิก ก็เลยมีแค่เรากับเพื่อนจากเม็กซิโกอีกคนเท่านั้น และไม่มีรายละเอียดค่ายอะไรให้เลยซักอย่าง ผู้ประสานงานก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่ด้วยความเชื่อมั่นในองค์กรประเทศเค้า ค่ายนี้จัดโดยรัฐบาล ก็เลยตัดสินใจเดินหน้าต่อ

พอไปถึงสนามบิน Moscow ก็รีบไปต่อ night train ไป Kirov ทันที Jane ผู้ประสานงานก็มารับที่สถานีรถไฟ Kirov และพาเราไปพักที่บ้านนาง เราได้เรียนวิธีทำแพนเค้กแบบรัสเซียเรียกว่า Blin ด้วย และเจนก็พาทัวร์เมือง Kirov ซึ่งเป็นเมืองเล็กๆที่มีต้นไม้ มีสวนสาธารณะเยอะมากๆ ตอนเย็นเราก็ไปเข้าค่ายกัน สิ่งแรกที่ได้เรียนในค่ายก็คือ การปูที่นอน ทำไมผ้าคลุมเตียงมันยาวไม่พอพับเข้าไปใต้เตียงนะ เจนบอกเค้าใช้อย่างนี้ อ่อหรอออ ส่วนผ้าห่มก็จะเป็นแบบต้องสอดไส้เข้าไปเหมือนตามโรงแรม ดีนะที่เรียนมาก่อน วันหลังๆที่นอนในรถไฟต้องปูเองนะจ๊ะ

Day 1: วันแห่งการ observe วันนี้เป็นวันแรกในค่าย เรายังไม่มีหน้าที่อะไร ก็เลยไปสำรวจค่าย observe ว่าเด็กๆทำอะไรกันบ้าง ในค่ายเด็กๆจะแบ่งกลุ่มกันตามอายุ จะมีมิชชั่นให้เด็กๆทำร่วมกันเพื่อเก็บแต้มตลอด 3 วีค เริ่มตั้งแต่ตื่นนอน 8 โมง น้องๆต้องเก็บที่นอน ทำความสะอาดบ้าน จะมีคนไปให้คะแนนความสะอาดบ้านทุกวัน บ้านที่เราอยู่ได้คะแนนเต็ม 5 ทุกวันเลย จากนั้นไปออกกำลังกาย และ Breakfast ซึ่งเราก็จะได้กินทีหลัง เพราะโต๊ะไม่พอ จากนั้นจะเป็น free time เด็กๆก็มักจะไปว่ายน้ำ เล่นบาส เตะบอล ซ้อมเต้น จน lunch เค้าจะกินตอนบ่ายโมง ละก็จะเป็น silent hour คือนอนกลางวัน บ่าย 2 ถึง 4 โมง เราก็ได้นอนด้วย อิอิ จากนั้นก็ snack time

และจะมี free time เล็กน้อยก่อน 5 โมง เราก็เลยไปขอแจมเล่นนินจาเกมส์กับเด็กๆ มันเป็นเกมส์ล้อมวงกลมแล้วเราต้องแบฝ่ามือออกมา และต้องตีฝ่ามือเพื่อนข้างๆให้ได้ในครั้งเดียว เพื่อนก็จะยกมือหนีได้ครั้งเดียวเหมือนกัน ก็สนุกดี จากนั้นจะมีกิจกรรม 5 โมง – 1 ทุ่ม ที่ club วันแรกเป็นการประกวดเต้นของแต่ละกลุ่ม จากนั้น Dinner ตอน 1 ทุ่ม แล้วก็ free time จะมี disco เริ่มตอน 2 ทุ่ม ถึง 5 ทุ่ม ทุกวัน

Day 2: วันนี้เป็นวันแรกที่เราได้จัด Thai culture workshop ให้เด็ก เริ่มจากกลุ่มเด็กโต 3 กลุ่ม ใช้เวลากลุ่มละ 1 ชั่วโมง เราก็สอนสวัสดี ขอบคุณ ขอโทษ โชว์รูปสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ งานเทศกาลสงกรานต์ เทศกาลลอยกระทง สอนพับกระทง และรำไทย มีให้ชิมอาหารไทย เด็กมากกว่า 80% เป็นเด็กกำพร้าและไม่รู้จักเมืองไทยมาก่อน จาก 300 กว่าคนมีคนเคยไปเมืองไทยคนเดียว เด็กๆตื่นเต้น สนใจกันมากๆ เวลาถามคำถาม หรือขออาสาสมัครหน้าชั้น เด็กๆแย่งกันตอบ แย่งกันยกมือ ซึ่งต่างจากเด็กไทยมาก จัด workshop สนุกมาก เวลาน้องได้ชิมอาหารไทย ตลกสุดๆ หน้าดำหน้าแดงกันหมด หลังจบคลาสเด็กๆอยากไปเมืองไทยกันหมดเลย ทุกครั้งที่เจอเราเค้าจะยกมือไหว้ สวัสดีตลอด

ตอนเย็นวันนี้มีการประกวด mister คืองานประกวดเด็กผู้ชาย เหมือนนางงามนั่นแหละ มีการแนะนำตัว ประกวดชุด แสดงความสามารถพิเศษ ส่วนใหญ่จะเต้น มีคนนึง beatbox มีน้องคนนึงเคยเรียนมวยไทยมาก่อน โชว์มวยไทยด้วยนะ พี่ปลื้มเลย ที่แปลกหน่อยตรงที่ไม่มีการถามคำถามนางงาม แต่จะให้น้องยืนขาเดียวและบอกคำที่เป็นคำชมให้มากที่สุด

พอตกดึกมี horror game คือ Rally เก็บ RC ตอนกลางคืน คือมี theme แนว horror จะมีคำใบ้มาให้ น้องๆต้องไปหา RC ต่อในสถานที่ต่างๆในค่ายตามคำใบ้ และประกอบเป็นคำ เล่นกันตอน 4 ทุ่มครึ่งยันตี 3 จะมีสตาฟแต่งเป็นผีมาหลอกตามจุดต่างๆ เสียงกรี๊ดดังตลอดทั้งคืน สนุกแบบหลอนๆ

Day 3: วันนี้เป็นการจัด workshop ของเพื่อนเราจากเม็กซิโก เราก็เลยมีหน้าที่เป็นตากล้อง ตอนเย็นมีการแสดง bubble ให้น้องๆ ดีใจได้ดูฟรี เมืองไทยค่าตั๋วแพงนะเนี่ย ระหว่าง free time เราก็ไปแจมเด็กๆเล่นเกมส์โยนลูกบอลน้ำ มันคือถุงพลาสติกธรรมดา ใส่น้ำมัดให้แน่นเป็นลูกบอล ละโยนให้เพื่อนคนข้างๆ ถ้ารับไม่ดีหรือโดนเพื่อนปาแรงๆบอลจะแตก ตัวเราก็จะเปียก

ตกดึกก็มีปาร์ตี้ปิ้งขนมปังรอบกองไฟ น้องๆปิ้งเสร็จแล้วเอามาให้เราเยอะมาก ปลื้มม มีการร้องเพลงรอบกองไฟ ชอบมากคิดถึงเข้าค่ายลูกเสือสมัยเด็กๆ

Day 4: วันนี้ก็ได้จัด workshop อีกครั้ง คราวนี้กลุ่มเด็กเล็ก 5 กลุ่ม กลุ่มละ 30 นาที บางอย่างน้องอาจจะไม่เข้าใจ ก็เลยต้องรวบรัด เน้นโชว์รูป เด็กๆตื่นเต้นมากถึงมากที่สุด โดยเฉพาะกลุ่มเด็กอายุน้อยที่สุด ร้องโอ้โห ว้าว ตลอด 30 นาที จบคลาสแล้วน้องๆเข้ามากอดเรากลมเลย ดีใจน้ำตาจะไหล

วันนี้ตอนเย็นมีกิจกรรม คุณทำอะไรดีๆให้คนอื่นบ้างใน camp เด็กบางคนช่วยเก็บจาน เช็ดโต๊ะในโรงอาหาร เด็กบางคนช่วยเพื่อนหวีผม เก็บขยะในค่าย ทำความสะอาดบ้านที่พัก

คืนนี้มีงาน fancy เราก็เพิ่งรู้ ไม่ได้เตรียมชุดมา นี่ก็เลยใส่ผ้าถุงไปเลยจ้ะ เด็กส่วนใหญ่จะแต่งหน้าเป็นผี แล้วก็ไปแดนซ์ในดิสโก้

Day 5: วันนี้ก็เป็นตากล้องอีก 1 วัน ส่วนตอนเย็นมีกิจกรรมอำลา มอบ cer ให้กับ staff ส่วนใหญ่จะเป็นเด็กมหาลัย หรือเพิ่งเรียนจบ high school เตรียมเข้ามหาลัย จะมีการแตะมือกันทุกคน บรรยากาศเศร้ามาก เพราะน้องๆใช้เวลาด้วยกันมา 3 วีค พรุ่งนี้ต้องจากกันแล้ว ร้องไห้กันใหญ่เลย แล้วก็มีการฉายวีดีโอส่งข้อความจาก staff ให้เด็กๆ เราก็ได้พูดกับเค้าด้วย พูดยาวไปหน่อย เค้าเลยต้องแยก section ของเราโดยเฉพาะ 55

ตอนดึกๆมีก่อรอบกองไฟกองใหญ่ ทุกคนในค่ายมารวมตัวกัน ตอนแรกก็นึกว่าจะมีแสดงรอบกองไฟแบบบ้านเราหรอ แต่ป่าว น้องคนนึงจับมือเราจูงแล้วเดินไปรอบกองไฟ เราก็งงๆว่าเดินวนทำไมตั้งหลายรอบ ซักพักก็พาไปคล้องตัวเพื่อนอีกคนเป็น 3 คน ยืนไม่ถึง 5 วิ ก็มีเด็กอีก 2 คนมาคล้องคอเราไปอยู่กลุ่มใหม่ ทำแบบนี้ไปเรื่อยๆ ทำให้ได้พูดคุยกับเด็กๆหลายๆคน บางทียังไม่ทันได้คุยก็โดนย้ายกลุ่มแล้ว เป็นกิจกรรมที่น่ารักดี เล่นไป 1 ชั่วโมงเหมือนได้คุยกับคนเกือบทั้งค่าย

พอเที่ยงคืน ก็เป็นช่วงเปิดใจ เราก็ได้ไปจอยกลุ่มเด็กที่อายุมากที่สุด น้องๆในกลุ่มเค้าจะคุยกัน แน่นอนว่าเราฟังเค้าไม่รู้เรื่องหรอก ทุกคนคุยภาษารัสเซีย จะให้เจนแปลทุกประโยคก็ไม่ไหว แต่มีเด็กหลายๆคน ขอบคุณเราด้วย ซึ้งใจมาก เราก็ได้พูดขอบคุณเด็กๆ แอบน้ำตาไหลตามไปด้วย

Day 6: วันแห่งการจากลา วันนี้น้องๆเก็บของเตรียมตัวกลับบ้านกันแต่เช้า เราก็ได้มีโอกาสให้ของขวัญกับน้องๆและสตาฟ เรามีรูปที่ใช้ใน workshop ก็เลยเกิดปิ๊งไอเดีย เขียนขอบคุณ 3 ภาษา ให้เป็นโปสการ์ดของที่ระลึก ดีใจที่ทุกคนชอบ ตอนเราเดินไปขึ้นรถกลับ น้องๆเดินตามมาส่ง จับมือตลอดทางเลย น่ารักมากก

สรุปการมาค่ายครั้งนี้แม้ว่าตอนแรกจะติดขัดหลายๆอย่างจนนึกว่าจะไม่ได้ไปแล้ว พอไปถึงสภาพห้องน้ำก็ช็อค เพราะห้องน้ำ และห้องอาบน้ำ ไม่มีประตู เรื่องกลิ่นนี่ไม่ต้องพูดถึง ต้องทายาดมก่อนเข้าและกลั้นหายใจทุกครั้ง จนนึกว่าจะไม่รอดแล้ว แต่เด็กๆน่ารักมากให้การต้อนรับเราดีมาก ด้วยความที่เป็นต่างชาติกลุ่มแรกในค่าย และเด็กส่วนใหญ่เป็นเด็กกำพร้าในต่างจังหวัด เลยมีโอกาสเจอต่างชาติน้อยมาก เราน่าจะเป็นเอเชียคนแรกที่น้องเคยเจอเลยแหละ มาเข้าค่ายนี้รู้สึกเป็นเซเลป น้องๆเรียกชื่อเรา ทักทายทุกครั้งที่เจอ ขอถ่ายรูปด้วยตลอด พอเราไปเล่นเกมส์กับน้อง น้องดีใจมาก จากกลุ่มเล็กๆก็กลายเป็นกลุ่มใหญ่มาก มาเคาะประตูให้ไปเล่นด้วยทุกวัน พอจะกินข้าว น้องๆก็มาพูด приятного аппетита แปลว่า enjoy your meal ทุกมื้อ ถึงแม้น้องๆจะพูดภาษาอังกฤษไม่ได้เลย เวลาเจนไม่อยู่ก็เลย lost in tranlsation แต่น้องๆน่ารักมาก พยายามใช้ google translate คุยกับเรา รู้เรื่องด้วยนะ staff ทุกคนน่ารักมาก โดยเฉพาะ chef พอรู้ว่าเราชอบ spicy food ก็ทำเมนูพิเศษให้เราด้วย ขอไก่เพิ่มได้ด้วย ขอบคุณทุกคนในค่ายทั้งเด็กๆ staff คนขับรถ เพื่อนเจนที่ให้เรานอนที่บ้านฟรี โดยเฉพาะเจน นอกจากเป็นล่าม ยังพาเราไปเที่ยว ไปช้อป และทุกคนไม่ได้เงินเลยแม้แต่บาทเดียว ซึ้งใจในความสมัครใจเพื่อเด็กๆ

Leave a Comment

Your email address will not be published. Required fields are marked *